‘โตโยต้า คราวน์ ครอสโอเวอร์’ ปรับแนวคิดก้าวสู่อนาคต

ในโลกของการออกแบบรถยนต์แล้ว รถยนต์หลายๆ รุ่นที่มีการใช้ชื่อรุ่นเดิมมายาวนานหลายทศวรรษ มันมักจะสร้างภาพจำให้เราอ้างอิงว่า มันจะต้องเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ อยู่เสมอ และชื่อของ โตโยต้า คราวน์ (Toyota Crown) ก็เช่นกัน สำหรับคนไทย และสำหรับคนจำนวนมากในโลกนั้น มองว่า คราวน์ คือซีดานหรู ระดับ “มงกุฎ” สำหรับผู้บริหาร (แม้ว่าสำหรับคนญี่ปุ่น และคนฮ่องกง บางส่วนอาจจะมองว่า คราวน์ เป็นรถแท็กซี่ ติดแก็สก็ตาม) แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป ก็ถึงวันที่การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นกับรถในตระกูลคราวน์

เป็นที่รู้กันว่าตลาดรถยนต์ซีดานนั้นหดตัวลงอย่างมาก รูปแบบรถยนต์ที่คนในปัจจุบันให้ความสนใจกลับกลายเป็นรถในสไตล์ลูกผสม หรือครอสโอเวอร์ (Crossover) หรือไม่ก็แนว เอสยูวี (SUV) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ใหญ่ๆในโลกต้องหันมาออกรถในสไตล์นี้กันถ้วนหน้า และในที่สุดก็ถึงคิวของ โตโยต้า คราวน์ ในที่สุด โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ ทางโตโยต้า ในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการเปิดตัวโตโยต้า คราวน์ รุ่นใหม่ พร้อมกันถึง 4 รูปแบบตัวถังที่ “แตกต่างกัน” อย่างสิ้นเชิงคำพูดจาก pg เว็บตรง!

การเปิดตัวด้วยรูปแบบตัวถังที่แตกต่างกันถึง 4 รูปแบบ นี้นับว่าเป็นมิติใหม่ของการเปิดตัวรถยนต์เลยก็ว่าได้ โดยหัวหอกของ คราวน์ ในเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ก็คือ โตโยต้า คราวน์ ครอสโอเวอร์ (Toyota Crown Crossover) ซึ่งเป็นรถสไตล์ 5 ประตู ท้ายลาด (ที่ดูแล้วชวนให้นึกถึง ฮอนด้า แอคคอร์ด) แต่ยกตัวถังสูง และมาพร้อมกับการตกแต่งด้วยสีสันทูโทน (Two Tone) สองสี คือสีตัวถังตัดกับฝากระโปรงหน้า และหลัง ที่เป็นสีดำ ดูเตะตา และดุดันเป็นอย่างมาก ส่วนสไตลิ่งหน้าตานั้นก็มีกลิ่นอายของรถไฟฟ้า BZ4X ของโตโยต้าเองค่อนข้างชัดเจน

ส่วนอีกสามรุ่นที่เหลือ ที่ยังไม่ได้มีการลงในรายละเอียด และยังคงเป็นเพียงภาพที่สร้างจาก คอมพิวเตอร์ เรนเดอริ่ง (Computer Rendering) คันแรกก็คือ คราวน์ ซีดาน (Crown Sedan) รถสไตล์ผู้บริหาร ที่แม้จะมีตัวถังทรงท้ายลาด ที่มองแล้วเห็นได้ชัดเจนว่าหยิบยืมเส้นสายมาจากรถพลังไฮโดรเจน “มิราอิ” (Mirai) ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่การจัดการพื้นผิวของคราวน์ซีดาน นั้นทำได้อย่างเฉียบคม เรียบตึง และไม่เหลือเยื่อใยของความอนุรักษนิยมที่เราเคยเห็นในคราวน์ยุคก่อนๆ เลย

ตามมาด้วย คราวน์ สปอร์ต รถเอสยูวีสไตล์ล่ำสัน เปี่ยมไปด้วยมัดกล้าม ที่มาในตัวถังสีแดงสด กับเส้นสายที่ชวนให้นึกถึงรถเอสยูวีรุ่นดัง “พอร์เช่ คาเยนน์” (Porsche Cayenne) เป็นรถที่ดูทรงพลังในทุกๆ ด้านจริงๆ และคันสุดท้ายก็คือ คราวน์ เอสเตท (Crown Estate) รถในสไตล์เอสยูวี ยกพื้นสูง แต่หลังคาค่อนข้างเตี้ย และมีด้านท้ายที่ยาวกว่ารุ่นสปอร์ต นัยว่าเป็นรถที่มีที่นั่งถึง 3 แถวนั่นเอง และเช่นกันว่า สไตลิ่งของ คราวน์ เอสเตท ที่มาในสีเหลืองทอง นั้นก็แตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆ มองด้านข้างแล้วชวนให้นึกถึงรูปร่างของ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่โดนกดให้แบนลงไม่น้อย เรียกได้ว่า รถแนวคิดของ “คราวน์” อีกสามรุ่นที่เหลือนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

กลับมาที่รถ คราวน์ ครอสโอเวอร์ กันอีกสักรอบ ไม่เพียงแค่มันจะเป็นรถที่ไม่ได้มีรูปลักษณ์เกี่ยวโยงใดๆ กับ รถในตระกูลคราวน์ก่อนหน้านี้ แม้แต่ระบบขับเคลื่อนก็เรียกว่าฉีกกรอบ เพราะในอดีตที่ผ่านมา โตโยต้า คราวน์ จะใช้เครื่องยนต์แบบไฮบริด โดยเป็นเครื่อง 4 สูบวางขวาง ที่พ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งรุ่นท็อปนั้นจะเพิ่มระบบเทอร์โบและ เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า “อีแอกเซิล” (eAxle) เข้ามาอีก 1 ตัวทางด้านหลัง จนกลายเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งในสหรัฐอเมริกา จะเรียกระบบนี้ว่า “ไฮบริดแม็กซ์” (Hybrid MAX)

ส่วนทางญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่า ดูอัล บูสต์ ไฮบริด (Dual Boost Hybrid) ซึ่งถ้าทำงานเต็มรูปแบบจะมีแรงม้ามากถึง 340 แรงม้า!
นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า เราไม่สามารถทำอะไรเดิมๆ แต่หวังให้เกิดอะไรใหม่ๆ ได้ เรามาดูกันว่า ความบ้าบิ่นที่ฉีกกรอบเดิมๆ ของโตโยต้า นี้ จะสร้างแรงขับเคลื่อนได้มากเพียงใด เอาเป็นว่าเอาใจช่วยเต็มที่นะครับ!

โดย…ภัทรกิติ์ โกมลกิติ

Related Posts